วันอังคาร, 14 พฤษภาคม 2567

ผู้ช่วยพยาบาลสาวสุดช้ำ สามีจดทะเบียนสมรสซ้อนหญิง ซ้ำไล่ให้ไปตรวจ DNA ลูกในท้อง

21 ก.พ. 2023
177

ผู้ช่วยพยาบาลสาวสุดช้ำ ร้องขอความเป็นธรรม สามีจดทะเบียนสมรสซ้อนหญิงอื่นในวันวาเลนไทน์ ซ้ำไล่ให้ไปตรวจ DNA ลูกในท้อง

วานนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากหญิง อายุ 25 ปี ผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จ.เลย ว่าสามีวัย 27 ปี ไปจดทะเบียนสมรสซ้อนกับหญิงอื่นในวันวาเลนไทน์และไม่รับผิดชอบลูกในท้อง
.
ฝ่ายหญิง เล่าว่า ตนอยู่กินกับสามีได้ประมาณ 1 ปี 2 เดือน ก่อนคบกันสามีก็ยอมรับว่า เคยมีลูกกับภรรยาเก่ามาแล้ว 2 คน และเลิกกับภรรยาคนนั้นไปแล้ว แต่ภรรยาเก่าไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน ซึ่งบ้านของสามีเปิดเป็นอู่ซ่อมรถอยู่ที่เชียงคาน นาน ๆ ครั้งถึงจะแวะมาหาในเมือง และตนก็ไม่รู้ว่าสามียังใช้ชีวิตร่วมกันกับภรรยาเก่าอยู่
.
ต่อมา ตนเห็นเฟซบุ๊กของภรรยาเก่าที่สามีอ้างว่าเลิกกันไปแล้วนั้น มีการโพสต์ภาพใบทะเบียนสมรสที่เพิ่งจดกันไปในวันที่ 14 ก.พ. ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงมีการจดทะเบียนสมรสซ้อน เพราะวันที่ 9 ม.ค. ตนกับสามีเพิ่งจะไปจดทะเบียนสมรสด้วยกันมา เมื่อโทรไปสอบถามสามี ภรรยาเก่าของสามีเป็นคนรับสาย และพูดว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
.
หลังจากจดทะเบียนกับสามี ตนตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน แต่หลังจากที่ตนทราบว่าสามีแอบไปจดทะเบียนซ้อน ตนจึงสอบถามเรื่องความรับผิดชอบเรื่องลูก โดยเรียกร้องค่าเลี้ยงดู 3 แสน พร้อมกับตัดความสัมพันธ์ แต่สามีปฏิเสธว่าไม่มีเงินให้ และตอบกลับว่า ทำไมไม่รู้จักป้องกัน พร้อมกับจะให้เธอนั้นไปตรวจ DNA ลูกในท้องว่าใช่ลูกของเขาหรือไม่
.
ตนจึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรม ให้ฝ่ายชายออกมารับผิดชอบ และอยากได้รับคำตอบจากทางอำเภอ ว่าทำไมสามีถึงสามารถจดทะเบียนสมรสได้ถึง 2 ครั้ง
.
ด้านฝ่ายชายยอมรับว่า จดทะเบียนสมรสซ้อนจริง โดยที่จดกับฝ่ายหญิง เพราะว่า ถูกทวงถามหลายครั้งจึงยอมจดทะเบียนให้พ้น ๆ ไป ส่วนเมื่อวันวาเลนไทน์ เป็นเพราะภรรยาคนปัจจุบันอยู่ด้วยกันมา 11 ปี มีลูกด้วยกันมาแล้ว 2 คน ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายจึงยอมไปจด
.
ฝ่ายชายโต้กลับผู้เสียหายว่า ไม่เคยบอกว่าเลิกกับภรรยาไปแล้ว ซึ่งฝ่ายหญิงก็ทราบมาตลอด ส่วนเรื่องลูกในครรภ์ ยินดีจะรับผิดชอบ หากเป็นลูกตนจริง ๆ
.
ส่วนเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน หลังจดทะเบียนสมรสเมื่อ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาก็เซ็นใบหย่าไปเมื่อ 16 ก.พ. เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และพยายามจะติดต่อฝ่ายหญิงให้มาเซ็นใบหย่าด้วยแต่ก็ไม่ยอมมา ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดตัวเองทั้งหมด

โหนกระแส