วันอังคาร, 7 พฤษภาคม 2567

จากเด็กเรียน กศน. มุมานะจน “สอบติดแพทย์” คนเเรกของประเทศไทย!

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของ น้องวิทย์ เด็กเรียนจบ กศน. เเต่ด้วยความพยายาม มุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้สามารถสอบติดเเพทย์ กสพท. ได้ ไปติดตามเรื่องราวของน้องวิทย์กันเลยค่ะ

“ความฝันไม่จำเป็นต้องตรงใจใคร ขอเเค่มันตรงใจเราก็พอ” วรวิทย์ คงบางปอ หรือ น้องวิทย์

– สอบติด วิทยาลัยเเพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า จากการสอบคัดเลือกระบบรับตรง ของกลุ่มสถาบันเเพทยศาสตร์เเห่งประเทศไทย(กสพท.) ปีการศึกษา 2557

– จบหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนสายสามัญ (กศน.) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก กศน.อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง

วรวิทย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองจบการศึกษา ม.ปลายที่ กศน.อ.เมืองระนอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เรียนชั้น ม.4 ที่กรุงเทพฯ 1 ปี เเละย้ายกลับมาที่จังหวัดระนอง

เเต่เนื่องจากหน่วยกิตไม่ครบ จึงไม่สามารถเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดได้ จึงได้เข้าศึกษาต่อที่ กศน.อ.เมืองระนอง ซึ่งในขณะนั้นก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นทางการศึกษาของตนเองจะเป็นเช่นไร รวมถึงรู้สึกได้ว่าทางบ้านผิดหวังกับการเลือกเส้นทางนี้พอสมควร

วรวิทย์ บอกว่า การเรียนที่ กศน.นั้น ตัวผู้เรียนจะต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองค่อนข้างสูง เพราะไม่มีอาจารย์คอยดูเเลอย่างใกล้ชิดในห้องเรียนเหมือนกับโรงเรียนทั่วไป ซึ่งใน 1 สัปดาห์นั้น ตนเองจะตั้งใจอ่านหนังสือ 6 วัน เเละหยุดพัก 1 วัน รวมถึงจะหาหนังสือที่มีการเรียนในระบบมัธยมศึกษาทั่วไป

เเต่ที่ กศน. ไม่มีมาอ่านเสริม โดยจะอ่านทั้งหมดกว้าง ๆ ไปก่อน หลังจากนั้นจึงจะกลับมาเจาะเฉพาะประเด็นหรือหัวข้อที่สำคัญอีกครั้ง ซึ่งการเรียน กศน. จะได้เปรียบนักเรียนในระบบตรงที่ผู้เรียนมีเวลาอ่านหนังสือได้มากกว่า เเต่ต้องควบคุมเเละจัดระเบียบตัวเองให้ได้ด้วย

วรวิทย์ ได้เล่าให้ฟังถึงการวางเเผนในการสอบเรียนต่อว่า ตนเองตั้งใจจะสอบเรียนต่อเเพทย์มาตั้งเเต่ต้น เเละได้วางเเผนให้กับตัวเองในการศึกษา ด้วยความมีระเบียบทั้งการเรียนเเละการอ่านหนังสือ จุดไหนที่ขาดก็จะหามาเติมให้เต็ม โดยมีการไปติวในวิชาสามัญอื่น ๆ ที่ กศน. ไม่มีบ้างในบางวิชา

เเต่สำหรับการสอบต่อเเพทย์นั้นไม่ได้ไปติวเพิ่มเเต่อย่างใด อาศัยการศึกษาข้อสอบในปีก่อน ๆ เเละมาทำการเก็งข้อสอบเอาเอง โดยเชื่อว่าทุกอย่างนั้นต้องอยู่ในวิชาที่มีการเรียนการสอน

จนในที่สุดตนเองก็สมัครสอบเข้าที่กลุ่มสถาบันเเพทย์ศาสตร์เเห่งประเทศไทย ซึ่งมีผู้สมัครสอบราว 30,000 คน เเต่รับประมาณ 1,300 คน เเละก็สอบได้ในอันดับเเรกที่เลือกไว้คือที่ วิทยาลัยเเพทย์ศาสตร์พระมงกุฏ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเเพทย์ทหาร

“ในสังคมนี้อาจจะมีคนเก่งเยอะมากเเล้ว เเละตัวผมเองนั้นเคยทำให้พ่อเเม่ผิดหวังจนต้องเสียน้ำตามาเเล้วหลายครั้ง เเต่สำหรับครั้งนี้เเละต่อไปในอนาคต จะมีเเต่ความภาคภูมิใจ ความยินดี ที่ผมจะเป็นคนดีเเละคนเก่งสำหรับพ่อเเละเเม่ของผมครับ” วรวิทย์กล่าวทิ้งท้าย

คนที่อาจะจจะไม่ได้มีอะไรพร้อมกว่าคนอื่น เเละอาจจะด้อยกว่าด้วยซ้ำ ทำไมเขาจึงทำได้ สามารถสอบติดคณะที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปได้ ทั้ง ๆ ที่พื้นฐานชีวิตความพร้อมต่าง ๆ ไม่มีอะไรจะไปสู้คนอื่นได้เลย บ้านไม่ได้รวย

อย่าว่าเเต่โรงเรียนดังเลย ที่เขาไม่ได้เรียน เเม้เเต่โรงเรียนสามัญธรรมดา ก็ไม่ได้เรียน ต้องไปเรียน กศน.หรือ การศึกษานอกโรงเรียน …เเต่สิ่งหนึ่งที่เขามีอยู่เหลือเฟือคือ “ความพยายาม”

“ความฝันไม่จำเป็นต้องตรงใจใคร ขอเเค่มันตรงใจเราก็พอ”

แหล่งที่มา phumpunya / eat543

เรียบเรียงโดย yimsiam99.com